ยูเครน-รัสเซีย ส่งสัญญาณสู้รบเดือดรับปี 2024

ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มทั่วแผ่นดินยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงคราม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

หลังจากนั้นเพียง 1 วัน ยูเครนก็ได้ส่งฝูงโดรนและขีปนาวุธ เข้าโจมตีแผ่นดินรัสเซียครั้งใหญ่เช่นกัน ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตถึง 21 ราย ซึ่งถือเป็นการสูญเสียพลเรือนของรัสเซียที่มากที่สุดในคราวเดียว และจนถึงเวลานี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตอบโต้กันไปมา

อังกฤษประเมิน รัสเซียอาจเสียทหารครึ่งล้าน หากสู้ยูเครนถึง 2025

“เซเลนสกี” ส่งข้อความปีใหม่ รัสเซียจะได้เห็นความเกรี้ยวกราดของยูเครน

ล่าสุด ผู้นำรัสเซียและยูเครนใช้โอกาสในช่วงปีใหม่ส่งสัญญาณว่า สันติสุขอาจไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้กล่าวขอบคุณบรรดาทหารและประชาชนในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์อวยพรปีใหม่ โดยระบุว่า

แม้จะผ่านการรุกรานจากรัสเซียมาจนเกือบเข้า 2 ปีเต็ม แต่ยูเครนยังคงยืนหยัดทัดทานได้อย่างแข็งแกร่ง และความแข็งแกร่งนี้จะทำให้ยูเครนอยู่รอดต่อไปได้ในฐานะชาติอธิปไตย

ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็ได้พูดถึงสงครามในยูเครนระหว่างที่กล่าวสุนทรพจน์อวยพรปีใหม่กับประชาชนเช่นเดียวกัน

โดยผู้นำรัสเซียได้กล่าวสรรเสริญสงครามที่เขาเป็นผู้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับชื่นชมทหารที่ทำการรบในแนวหน้าว่าเป็นวีรบุรุษ รวมถึงเรียกร้องให้ชาวรัสเซียสามัคคีกัน และย้ำว่าไม่มีสิ่งใดหยุดการพัฒนาของรัสเซียได้

สุนทรพจน์ปีใหม่ของผู้นำทั้ง 2 คือการส่งสัญญาณว่า ในปี 2024 นี้ สันติสุขอาจยังเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ ทั้งนี้หลายฝ่ายประเมินว่า ในปี 2024 สงครามในยูเครนอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากหลายปัจจัย สำคัญที่สุดคือ การเมืองในสหรัฐฯ

นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 สหรัฐฯ คือผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุดของยูเครน ทั้งในเรื่องความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและด้านการทหาร โดยความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครน คิดเป็นมูลค่ามากถึง 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.6 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เริ่มล่าช้าและไม่แน่นอน หลังจากที่สภาคองเกรสยังไม่ยอมอนุมัติงบประมาณชุดล่าสุดมูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีไบเดนขอไปตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

โดยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า ยูเครนขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่จนต้องลดขนาดการปฏิบัติการในบางแนวรบลง

อย่างไรก็ตาม ในการกล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนประกาศว่า จะเตรียมการผลิตอาวุธเพื่อใช้เองให้มากขึ้น โดยเฉพาะโดรนประเภทต่างๆ ที่จะตั้งเป้าว่าจะผลิตให้ได้ถึง 1 ล้านลำคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สงครามยูเครนที่จะครบรอบ 2 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ทวีความดุเดือดมากขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 หลังจากที่รัสเซียและยูเครนตอบโต้โจมตีกันด้วยโดรนและขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น

เหตุการณ์การโจมตีใหญ่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมาในวันดังกล่าวรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธทุกประเภทที่อยู่ในคลังแสง ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธนำวิถี และโดรน รวมทั้งสิ้นกว่า 158 ลำ เข้าโจมตีทั่วประเทศยูเครน รวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟด้วย

ผลจากการโจมตีทำให้เมืองและหมู่บ้านกว่า 170 แห่งได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 39 คน หลังจากนั้น ยูเครนโต้กลับรัสเซียทันที ด้วยการส่งโดรนและขีปนาวุธนับร้อยลำเข้าโจมตีหลายพื้นที่ของรัสเซีย

โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ เมืองเบลโกรอด ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น

ขีปนาวุธและโดรนของยูเครน ตกลงกลางที่พักอาศัยและถนนใจกลางเมืองเบลโกรอด ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 24 ราย ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตของพลเรือนรัสเซียที่มากที่สุดในคราวเดียว นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว

เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวเมืองเบลโกรอดจำนวนหนึ่ง ได้พากันไปวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิต หลายคนบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่นสะเทือนความรู้สึกอย่างมาก เพราะผู้เสียชีวิตหลายคนเป็นเด็ก

หลังเบลโกรอดถูกโจมตี เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปี 2023 รัสเซียก็ตอบโต้ยูเครนกลับทันที ด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนเข้าโจมตีใส่เมืองคาร์คีฟอย่างหนัก

คาร์คีฟเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนรองจากกรุงเคียฟ อยู่ในแคว้นคาร์คีฟทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 30 กิโลเมตรเท่านั้น

แคว้นคาร์คีฟแห่งนี้เกือบทั้งภูมิภาคเคยถูกรัสเซียยึดไว้ในช่วงต้นของการรุกราน ก่อนที่ยูเครนจะยึดกลับคืนมาได้ทั้งหมดในเดือนกันยายนปี 2022

ผลจากการโจมตีของรัสเซียในวันส่งท้ายปี ทำให้โรงแรมแห่งหนึ่ง รวมถึงอาคารที่พักอาศัยและร้านค้าจำนวนมากของเมืองคาร์คีฟได้รับความเสียหายอย่างหนัก และมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้รับบาดเจ็บเกือบ 30 คน

โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ เปิดแถลงข่าวหลังจากนั้นโดยระบุว่า กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธนำวิถีเข้าโจมตีศูนย์บัญชาการทางทหารของยูเครน ซึ่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งของเมืองคาร์คีฟ ที่มีชื่อว่าโรงแรมพาเลซ

ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงถือเป็นการล้างแค้นจากการที่ยูเครนใช้ระบบยิงขีปนาวุธหลายลำกล้องโจมตีเมืองเบลโกรอด ระหว่างการแถลงข่าว โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ยังระบุด้วยว่า การโจมตีเมืองเบลโกรอดของยูเครนคือการก่อการร้าย

อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนออกมาระบุว่า โรงแรมพาเลซแห่งนี้ไม่ได้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานทางการทหาร และโรงแรมแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักข่าวต่างชาติที่เข้ามาทำข่าวในพื้นที่มักใช้เป็นที่พักอาศัย

สำนักข่าวปราฟดาของยูเครนอ้างคำให้การของเจ้าหน้าโรงแรมที่ระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุมีห้องพักของโรงแรม 15 ห้องถูกจองไว้ โดยในจำนวนนี้ 10 ห้องถูกจองโดยนักข่าวต่างชาติที่เข้ามาทำข่าว

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว ZDF ของเยอรมนีรายงานว่า มีนักข่าวสองคนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีโรงแรมแห่งนี้

เบตตินา เชาส์เทิน บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวแห่งนี้ระบุว่า นี่เป็นอีกครั้งที่รัสเซียโจมตีสื่อเสรี และหวังว่าเพื่อนร่วมงานที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี สำนักข่าว ZDF ยังย้ำว่าจะรายงานข่าวสงครามในยูเครนต่อไป