รัฐบาลทหารกาบองที่มาจากการรัฐประหาร สัญญาจัดให้มีการเลือกตั้ง

จากกรณีเมื่อวันพุธที่ 30 ส.ค. ผ่านมา ทหารประเทศกาบองได้นำเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและยึดอำนาจการปกครองจากประธานาธิบดี อาลี บองโก ออนดิมบา วัย 64 ปี

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) นายพล บริซ โอลิกุย เงมา ผู้นำการรัฐประหารยึดอำนาจจากประธานาธิบดีประเทศกาบองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราว และให้คำมั่นว่าจะจัดให้มี “การเลือกตั้งที่เสรี โปร่งใส และน่าเชื่อถือ” เพื่อฟื้นฟูการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลาอย่างชัดเจน

ชาวกาบองลงถนน แสดงความยินดีทหารยึดอำนาจจากปธน.

ทหารกาบองประกาศยึดอำนาจจากประธานาธิบดี อ้างโกงการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นที่จะนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง และยืนกรานว่าการรัฐประหารครั้งนี้ได้ช่วยกาบองจากการนองเลือด หลังการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยกลโกง

“คณะกรรมการเพื่อการเปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูสถาบันต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองซึ่งได้แย่งชิงอำนาจของสถาบันสาธารณะมานานหลายปี และเป็นการดูหมิ่นหลักเกณฑ์ของประชาธิปไตย โดยไม่มีความรุนแรง การปะทะ หรือการสูญเสียเลือดเนื้อ” โอลิกุยกล่าว

ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวาน โอลิกุยกล่าวว่า การเลือกตั้งจะเป็นก้าวสำคัญในการ “มอบอำนาจคืนให้กับพลเรือน” และเสริมว่า เขากำลังแสวงหาการมีส่วนร่วมของ “กลุ่มอำนาจหลัก” ทั้งหมดของกาบอง เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะ “ผ่านการรับรองโดยการลงประชามติ”

โอลิกุยยังกล่าวอีกว่า เขาจะสั่งการให้รัฐบาลในอนาคตพิจารณาวิธีการนิรโทษกรรมนักโทษทางความคิด และอำนวยความสะดวกในการส่งผู้ลี้ภัยทั้งหมดกลับจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศอื่น ๆ แสดงท่าทีไม่ยอมรับว่า โอลิกุยเป็นผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมายของกาบอง ซึ่งผู้นำรัฐบาลทหารก็ตอบโต้ โดยการตำหนิ “องค์กรระหว่างประเทศ” ซึ่งไม่ได้เอ่ยนามแห่งหนึ่ง “เรารู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้ยินองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งประณามการกระทำของทหาร ที่เพียงยืนหยัดสาบานตนต่อชาติ ที่ยอมเสี่ยงชีวิตปกป้องประเทศของตัวเอง”

ประเทศตะวันกตและองค์กรหลายแห่งวิพากษ์วิจารณ์การรัฐประหารครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า การยึดอำนาจครั้งนี้แตกต่างไปจากประเทศอื่น ๆ เนื่องจากความน่าเชื่อถือของการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีข้อพิรุธจริง

เรียบเรียงจาก The Guardianคำพูดจาก สล็อตออนไลน์

ภาพจาก AFP