รัสเซียหาทหารหน้าใหม่ไปรบในยูเครน รอบนี้ใช้วิธี “เชิญชวน” แบบเงียบ ๆ

สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) รายงานว่า ขณะนี้ ดูเหมือนกำลังมีการรับสมัครและระดมกำลังทหารครั้งใหม่ในรัสเซีย เพื่อเสริมกำลังทหารสำหรับสงครามในยูเครน

แต่รอบนี้รัสเซียไมได้ใช้วิธีประกาศระดมกำลังแบบกระโตกกระตากอย่างครั้งก่อน โดยครั้งนี้เป็นลักษณะของการ “ชักชวน” ผ่านทั้งโฆษณาที่สัญญาว่าจะให้เงินพิเศษ ทั้งนายหน้าที่โทรหาผู้ชายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมโดยตรง หรือสำนักงานเกณฑ์ทหารที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานบริการสังคมเพื่อจูงใจนักศึกษาและผู้ว่างงาน

ไม่ใช่แค่ขู่! รัสเซียประกาศแผนติดตั้ง “อาวุธนิวเคลียร์” ในเบลารุส

UN แฉ"รัสเซีย-ยูเครน" ละเมิดสิทธิมนุษยชนเชลยศึกอย่างทารุณ

"รัสเซีย" กำลังทหารหมดแรงล้อมบัคมุต เจอ "ยูเครน" จ่อรุกกลับ

ด้วยวิธีเหล่านี้ รัสเซียจะสามารถหลีกเลี่ยงการประกาศการระดมพลระลอกที่สองอย่างเป็นทางการได้ หลังจากที่การระดมพลครั้งก่อนได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นที่นิยมและเกิดกระแสต่อต้านครั้งใหญ่ในประเทศ

ยังมีสื่อรัสเซียรายงานว่า พลเรือนชายทั่วประเทศได้รับหมายเรียกจากสำนักงานเกณฑ์ทหาร ในกรณีเหล่านี้ส่วนใหญ่มักถูกขอให้อัปเดตข้อมูลของตน และบางส่วนได้รับคำสั่งให้เข้าร่วมการฝึกทหาร

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลทหารกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หมายเรียกดังกล่าวเป็นเพียงการอัปเดตข้อมูลในสำนักงานเกณฑ์ทหาร “ตามปกติ” เท่านั้นคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

ขณะที่รายงานของสื่ออื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการยืนยัน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้รัฐบาลส่วนภูมิภาครับสมัครอาสาสมัครจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่บางแห่งประกาศจัดตั้งศูนย์จัดหางานโดยมีเป้าหมายเพื่อให้พลเรือนชายเซ็นสัญญาที่จะทำให้พวกเขาถูกส่งไปรบได้

นอกจากนี้ ยังมีโฆษณาปรากฏบนเว็บไซต์ของรัฐบาลและในบัญชีโซเชียลมีเดียของสถาบันและองค์กรของรัฐ รวมถึงห้องสมุดและโรงเรียนมัธยม

หนึ่งในนั้นโพสต์โดยฝ่ายบริหารเทศบาลในภูมิภาคยาโรสลัฟล์ตะวันตก ซึ่งสัญญาว่า แค่เพียงสมัครไปรบ ก็จะให้เงินก้อนประมาณ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 130,000 บาท) และถ้าถูกส่งไปยูเครน จะได้เงินเดือนสูงถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ (85,000 บาท) บวกอีกประมาณ 100 ดอลลาร์ต่อวันสำหรับการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการเชิงรุก และ 650 ดอลลาร์สำหรับความก้าวหน้าแต่ละกิโลเมตรภายในทีมจู่โจม

โฆษณาดังกล่าวระบุด้วยว่า ผู้ที่สมัครเป็นทหารจะได้รับสิทธิ์การแบ่งชำระภาษีและเงินกู้ สถานะการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยพิเศษสำหรับบุตรหลานของพวกเขา เงินชดเชยจำนวนมากสำหรับครอบครัวหากได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในการปฏิบัติงาน และสถานะของทหารผ่านศึกซึ่งมีสิทธิพิเศษมากกว่า

และที่เมืองโนโวซีบีร์สค์ของไซบีเรีย เซอร์เก เชอร์นีชอฟ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งหนึ่ง เล่าว่า เจ้าหน้าที่ขอให้มหาวิทยาลัย วิทยาลัย และโรงเรียนอาชีวศึกษาแปะโฆษณารับสมัครทหารบนเว็บไซต์

ส่วนการเชื้อเชิญผ่านโทรศัพท์นั้น พลเมืองชายรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย กล่าวว่า เขาได้รับโทรศัพท์ดังกล่าวและรู้สึกประหลาดใจกับความสุภาพ “หลังจากที่ผมบอกว่า ‘ไม่’ ก็ไม่มีการคุกคามหรือพยายามโน้มน้าวใจผม เขาตอบกลับมาแค่ว่า ‘ขอบคุณ ลาก่อน’”

มีเพียงบางกรณีเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหารกดดันให้พลเรือนชายลงทะเบียนเป็นทหารจริง ๆ

กริกอรี สเวิร์ดลิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มที่ชื่อว่า Go by the Forest ซึ่งช่วยให้พลเรือนชายหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร บอกว่า กลุ่มของเขาได้รับข้อความมากถึง 100 ข้อความต่อวันเพื่อขอคำแนะนำในการจัดการกับหมายเรียกหรือเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหาร

เขาบอกว่า ในกรณีส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่เพียงต้องการอัปเดตข้อมูลที่อยู่และช่องทางติดต่อของพวกเขาเท่านั้น อาจมีบ้างที่พยายามรับสมัครทหารในระหว่างกระบวนการนั้น

แต่สเวิร์ดลินบอกว่า ในบางกรณีก็มีความเอาจริงเอาจังมาก โดยที่ภูมิภาคโวล็อกดา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร กลุ่ม Go by the Forest ได้รับข้อความแจ้งว่า “เกือบทุกคนที่ไปที่สำนักงานเกณฑ์ทหารหลังจากได้รับหมายเรียก ถูกบังคับให้เซ็นเอกสารห้ามออกจากพื้นที่”

คาเทรีนา สเตปาเนนโก นักวิเคราะห์จาก ISW กล่าวว่า โครงการรับสมัครในปัจจุบันเหล่านี้คล้ายกับที่บังคับใช้เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ก่อนที่จะมีการบังคับเกณฑ์ทหารในเดือนกันยายน

“ก่อนเดือน ก.ย. ทางการยังใช้แรงจูงใจด้วยเงิน และมีการจัดตั้งกองพันอาสาสมัครต่าง ๆ ขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าความพยายามไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะในที่สุดปูตินก็หันไปใช้การบังคับระดมพลสำรอง” เธอกล่าว และบอกว่า การเชื้อเชิญครั้งใหม่นี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น ยังไม่ชัดเจน

ความพยายามในการหาทหารในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังต้องการกำลังคนไปรบในยูเครน สเตปาเนนโกบอกว่า “สิ่งที่การระดมกำลังพล 300,000 นายเมื่อเดือน ก.ย. บอกกับเราก็คือ การจัดตั้งกองกำลังขณะนี้ไม่เพียงพอสำหรับรัสเซียที่จะผลักดันปฏิบัติการรุกรานต่อไป”

เรียบเรียงจาก AP

ภาพจาก AFP