แม้ว่า Nintendo DS จะยกเลิกการผลิตไปเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องเล่นรุ่นนี้มีผลงานเกมคุณภาพยอดเยี่ยมกันอยู่หลายเกมเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเครื่องเล่นพกพารุ่นแรกที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย และด้วยไอเดียกับลูกเล่นต่างๆ ที่ใส่มาแบบจัดเต็มก็เลยกลายเป็นจุดเด่นของ Nintendo ในการออกแบบเครื่องเล่นรุ่นอื่นๆ กันต่อมา โดยวันนี้ThisIsGame Thailandก็ไม่พลาดที่จะขอนำ 12 เกมคุณภาพเจ๋งประจำเครื่องมาฝากกันด้วย แต่จะมีเกมอะไรบ้างว่าแล้วอย่ารอช้ามาเริ่มกันข้อแรกข้างล่างนี้เลย
1.Mario Kart DS
เริ่มต้นกันที่เกมอมตะอย่างซีรีส์มาริโอ้รถแข่งโดยภาคนี้ก็มีความพิเศษตรงที่เป็นเกมที่นำเสนอระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้นยังมีระบบใหม่ๆ มากมายอาทิ โหมดภารกิจ, สนามแข่งขันแบบเรโทรที่นำเอาฉากยอดฮิตจากภาคต้นฉบับ 16-bit, Nintendo 64, GameBoy Advance และ GameCube มารีเมคใหม่ ซึ่งเกมนี้เองก็ยังรองรับฟีเจอร์ Download Play ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถแชร์คอนเทนต์เกมบางส่วนเพื่อเล่นโหมดแข่งขันได้สูงสุด 8 คนเพียงแค่ตลับเกมตลับเดียวคำพูดจาก เว็บเดิมพันออนไลน์
2.Metroid Prime: Hunters
สานต่อความสนุกของซีรีส์ Metroid Prime ที่นำเสนอระบบการเล่นแบบ FPS พร้อมโหมดเนื้อเรื่องที่ดุเดือดให้เราไปตบตีกับสลัดอวกาศคนอื่นๆ ตะลุยในดาวดวงต่างๆ ที่มีไบโอมต่างกัน แก้ไขปริศนา สู้กับศัตรู นอกจากนี้ยังมีระบบ PvP ให้ผู้เล่นสามารถเข้าไปยิงกันแบบ Deathmatch พร้อมปลดล็อกตัวละครต่างๆ ที่มีสกิลไม่เหมือนกัน รองรับทั้งแบบ Download Play ที่แบ่งกันเล่นตลับเดียว หรือจะเข้าโหมดออนไลน์ก็ยังได้ เรียกว่าเป็นเกมที่ครบเครื่องในตลับเหมือนกัน
3.Tetris DS
เกมตัวต่อยอดฮิตที่ได้รับการวางจำหน่ายบน Nintendo DS ด้วย แต่ภาคนี้ก็มีความโดดเด่นตรงที่ได้รับการจัดจำหน่ายจาก Nintendo พร้อมนำเกมแฟรนไชส์ดังต่างๆ มาผูกเข้ากับโหมดการเล่น เช่นโหมดคลาสสิกที่จะมีลุงหนวดมาริโอ้ยุคแฟมิคอมมาวิ่งโชว์, โหมดภารกิจที่ให้เราเคลียร์แถวหรือทำสกิลท่ายากต่างๆ เพื่อเปิดทางให้ Link ผ่านฉาก หรือจะเป็นโหมดจอสัมผัสที่เราสามารถใช้ปากกาจิ้มหน้าจอเลื่อนไปมาได้เอง และแน่นอนว่ายังรองรับ Download Play เหมือนเดิม
4.Pokémon Black & White 1 -2 / Pokémon Heart Gold & Soul Silver / Pokémon Diamond & Pearl – Platinum
ขาดไม่ได้เลยกับเกมซีรีส์โปเกม่อนที่ต้องบอกว่ามีให้เล่นหลากหลายภาคมากๆ แต่ภาคที่ไม่เล่นไม่ได้ก็คือเหล่าเกมภาคหลัก เริ่มจาก Diamond & Pearl ประจำ Gen 4, Platinum เกมภาคขยายความ เช่นเดียวกับเกมภาครีเมคจาก Gen 2 ที่นำความคลาสสิกยุคเกมบอยมาสู่รูปแบบที่ทันสมัยขึ้น ปิดท้ายด้วยภาค Black & White อีกสองตอน นับเป็นครั้งแรกที่นำเสนอการเปลี่ยน Gen สองครั้งติดกันบนเครื่องเล่นเดียว และยังรองรับการใช้ระบบออนไลน์เพื่อดาวน์โหลดของขวัญแจกฟรีหรือเทรดโปเกม่อน – แบทเทิลกันผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย
5.Picross
หลังจากความสำเร็จของภาคซูเปอร์แฟมิคอมก็เว้นช่วงกันพอหอมปากหอมคอ และ Nintendo จึงได้นำอีกหนึ่งเกมพัสเซิลยอดฮิตกลับมาให้แฟนๆ ได้เล่นกันใหม่ด้วย โดยภาคนี้ก็มีปริศนาหลายร้อยแบบให้เราได้ลับสมองกัน วิธีการเล่นก็คือผู้เล่นจะต้องทำลายบล็อคโดยตรวจสอบตัวเลขที่อยู่ด้านบนแผ่นกระดานว่าจะต้องเจาะกี่จุด เว้นกี่จุด เมื่อเคลียร์สำเร็จบล็อคเหล่านี้ก็จะกลายเป็นรูปภาพ
6.ซีรีส์ Castlevania
KONAMI ได้นำ Castlevania มาวางจำหน่ายกันถึงสามภาคเลย เริ่มจาก Dawn of Sorrow ที่เป็นเกมภาคต่อจาก Aria of Sorrow โดยภาคนี้ยังมีโหมดการเล่นที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็นตัวละครอื่นเช่น Alucard ตามมาด้วย Portrait of Ruins ที่มีเนื้อหาเป็นยุคสงครามโลกและใช้ระบบการเล่นรูปแบบพาร์ทเนอร์ที่สามารถเดินทางออกไปพร้อมกันสองตัวละครได้ ท้ายที่สุดกับ Order of Ecclesia กับการนำตัวเอกหญิงคนใหม่ผู้สูญเสียความทรงจำมาตะลุยแดนผีดิบสไตล์สตีมพังก์ที่มีเนื้อหาดราม่ามากที่สุดตอนหนึ่ง
7.Animal Crossing: Wild World
ว่ากันว่านี่เป็นเกม Animal Crossing ที่วางรากฐานให้ภาคต่อๆ มา ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นแบบออนไลน์, การเยี่ยมเยียนเมืองของเพื่อนบ้าน และพิพิธภัณฑ์ที่สามารถมอบฟอสซิลให้ตรวจได้ทันที เช่นเดียวกับระบบการร้องขอให้เพื่อนบ้านอยู่กับเราต่อไปจากเดิมที่เหล่าสัตว์จิ๋วอาจจะหายตัววับไปในวันใดวันหนึ่งแบบไม่บอกกล่าว ส่วนระบบการเล่นเองก็น่าสนใจมากเพราะนำประโยชน์ของหน้าจอบนมาใช้เพื่อดูดาว
8.Osu! Tatakae Ouendan / Elite Beat Agents
เกมแนวดนตรีสุดฮาที่ให้เรารับบทเป็นแก๊งกองเชียร์ (หรือหน่วยกองเชียร์ในภาคภาษาอังกฤษ) ให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในสถานการณ์ต่างๆ อาทิหนุ่มจบใหม่หางานไม่ได้, นักเขียนคนดังที่ไม่สามารถคิดพล็อตนิยายเรื่องใหม่ ไปจนถึงสาวเซเลปติดเกาะที่สิ้นหวังจนต้องหาแรงใจเพื่อเอาตัวรอด วิธีการเล่นก็คือผู้เล่นต้องจิ้มหน้าจอตามจังหวะ โดยปุ่มบนหน้าจอจะมีหมายเลขให้เรากดตามลำดับ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้อีเวนต์ต่างๆ ล้มเหลวได้
9.Rhythm Heaven
อีกหนึ่งเกมดนตรีที่เป็นภาคต่อจากเกมเวอร์ชั่น GameBoy แต่คราวนี้ได้รับการแปลภาษาแล้ว ผู้เล่นจะต้องเคาะจังหวะตามเพลงในมินิเกมคล้ายกับข้อข้างบน แต่ว่าเน้นจังหวะที่เป๊ะกว่าเดิม ไม่ได้เน้นการลากลูกบอล ซึ่งเพลงจะเป็นดนตรีบรรเลง – เพลงร้องแต่มีบีทคงที่ มีแพทเทิร์นการเคาะชัดเจน ให้เราเคาะไปเรื่อยๆ ต่างจากเกม Osu! ที่เป็นเพลงป๊อบจากศิลปินและจิ้มเลขตามลำดับ
10.The World Ends with You
เกม RPG แนวใหม่จาก Square Enix ให้เรารับบทเป็น Neku เด็กวัยร่นได้ตื่นขึ้นมากลางสี่แยก Shibuya โดยไม่ทราบสาเหตุ และได้ถูกบังคับให้เข้าร่วม Reaper’s Game อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เขาต้องร่วมต่อสู้ไปพร้อมกับ Shiki เด็กสาวที่ได้พบเจอ เพื่อเอาชีวิตรอดจากเกมไล่ล่านี้ให้ได้ภายในเวลา 7 วัน ระบบเด่นก็คือการใช้พลังจากเข็มกลัดในการต่อสู้ ทำให้เกิดเป็นแอ็กชันที่รวดเร็ว และตัวละครจะมีกิมมิกไม่เหมือนกันด้วย
11.ซีรีส์ Professor Layton
ขอเกมแนวฝึกสมองอีกสักซีรีส์กับ Professor Layton ผลงานค่าย Level-5 ซึ่งจะเป็นเกม RPG ให้เรารับบทเป็นคู่หูศาสตราจารย์และเด็กตัวจิ๋วเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ พร้อมจุดเด่นเป็นปริศนาที่ชวนให้เราได้ลับสมองประลองปัญญากันกว่าหลายร้อยรูปแบบ เคลียร์พัสเซิลและไขคำตอบในการผจญภัยสุดตื่นเต้น หากใครชอบดูอนิเมะคล้ายกับการ์ตูนจิบลิไม่ควรพลาดนะครับ
12.Legend of Zelda: Phantom Hourglass และ Spirit Tracks
ปิดท้ายด้วยซีรีส์คู่บุญอย่าง Zelda ที่มีให้เล่นกันสองภาคเลย และทั้งสองภาคนี้ก็มีการใช้ฟังก์ชันของ Nintendo DS แบบเต็มที่ด้วย โดยเฉพาะกับการแก้ปริศนาด้วยวิธีต่างๆ ทั้งจอสัมผัส (ที่ใช้เคลื่อนที่ด้วย) การปิดฝาพับเครื่อง หรือปริศนาแบบทั่วไปที่เคยเจอเช่นดันหินหรือใช้ไอเทม โดยภาคแรกจะเป็นเนื้อหาต่อเนื่องจาก Wind Waker เลย ขณะที่อีกภาคจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟให้เราเป็นคนขับรถ ปรับเกียร์ไปมาได้ด้วยนะ
เรียกได้ว่ามีหลากหลายแนวครบกันทุกความต้องการทั้งแนวแอ็กชัน, แนวจำลองชีวิต ไปจนถึงรูปแบบ RPG ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเกมที่แฟนพันธุ์แท้เครื่องเล่น Nintendo DS ต้องมีโอกาสสัมผัสกันมาบ้างแล้ว อีกทั้งยังเป็นเกมแฟรนไชส์ใหญ่ๆ ที่ยังมีผลงานมาถึงปัจจุบันด้วย แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับมีเกมไหนในรายชื่อหรือเกมที่อยู่นอกรายชื่อแต่อยากแนะนำก็ลองมาแลกเปลี่ยนกันได้ ส่วนโอกาสหน้าThisIsGame Thailandจะมีอะไรมาแบ่งปันอีก ขอเชิญติดตามที่นี่เช่นเคย
Nintendo nintendo ds